มิสทีนทรานส์เพชรบุรี 2025ที่โดนปลด ขอโทษแล้ว ตอนนี้กลัวมาก ขอโอกาสแก้ตัว
กรณีการปลด”แพร ” มิสทีนทรานส์เพชรบุรี 2025 เซ่นเหตุการณ์เป็นหนึ่งในแก๊งสาดน้ำซุปร้อนรังสิต โดยทางกองประกวด Miss Teen Trans Thailand เผยว่า ต้องขอปลด มิสทีนทรานส์เพชรบุรี2025 ออกจากการประกวดในปีนี้ เนื่องจากมีคุณสมบัติไม่ตรงตามสโลแกนของกองประกวด
มิสทีนทรานส์ไทยแลนด์ เวที ต้นแบบ เด็กเยาวชนหลากหลายทางเพศ ที่มีจิตอาสาและจิตสาธารณะเวทีแรกของประเทศไทยและมีคุณสมบัติที่ขัดต่อสังคม เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ทั้งนั้นทางกองได้รับฟีดแบคและเห็นด้วยกับฟีดแบคทั้งหมด จึงปลดมิสทีนทรานส์เพชรบุรี2025 ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป และทางกองจะขอจัดกิจกรรมเพื่อแต่งตั้ง มิสทีนทรานส์เพชรบุรี2025 คนใหม่
ล่าสุด แพร รักศักดิ์ มิสทีนทรานส์เพชรบุรี 2025 ออกมาร่ายยาวโพสต์ขอโทษผ่านเฟซบุ๊คว่า
สวัสดีค่ะหนูขอออกมาขอโทษทุกคนในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะคะตอนนี้ทุกคนอาจจะเข้าใจหนูไปอีกทางแล้วหนูห้ามความคิดใครไม่ได้ค่ะ อยากขอโทษเพื่อนตัวเองคนรอบข้างที่ทำให้เดือดร้อนเพราะหนู หนูมีช่องทางนี้เพื่อมาบอกทุกคนในสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ
คือวันที่เกิดเหตุหนูไปงานเกษตรแฟร์กับเพื่อนสามคนรวมหนูเองด้วยแล้ววน้องอัญญาคนที่โดนขู่ก็ตามไปที่งานน้องกลับมาด้วยกันบนรถ4คน
จากนั้นคนที่ก่อเหตุโทรหาน้องอัญญาถามว่าคนที่มีปัญหากับคนก่อเหตุอยู่ไหนละขู่บอกว่าถ้าไม่บอกจะถอดจมูกอัญญาซึ่งน้องอัญญาก็กลัว ค่ะแล้วบอกให้ทุกคนในรถไปที่จุดเกิดเหตุ หนูเองและเพื่อนๆก็ไปค่ะเพราะตอนแรกอีกใจหนูตั้งใจจะไปสระผมร้านในซอย แต่ร้านปิดแล้วหนูและเพื่อนๆไปที่หน้างานฟีลเหมือนเป็นชาวบ้านมาดูแบบบนี้ค่ะ อีกอย่างพวกหนูกับเพื่อนๆก็โดนพูดว่าถ่ายไว้ในหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใครไม่ถ่ายโดนตบ หนูยอมรับตรงๆว่าหนูไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ราดน้ำร้อนหรือตัดผมแล้วก็็ให้ถอนวิชาเรียนแบบข่าวที่ออกไปเลยค่ะ
หนูเองถ้าฟังจากในคลิปจริงๆมีเสียงหนูบอกว่าพี่พีมอย่า พอเหอะ ไม่เอา ร้องว้ายๆ ซึ่งเพื่อนหนูทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตกใจ เหตุการณ์ที่ตัดผมพี่โอชิเขาก็โดนบอกว่าโอชิมาช่วยหน่อยประมาณนี้ค่ะ
เพื่อนหนูทุกคนตอนนี้ในเหตุการณ์กลัวมาก แล้วรอบต่อมาหนูไปในซอยกินข้าวกับเพื่อนสามคน หนูกำลังขึ้นวินกลับห้องเจอพี่ๆตำรวจมาจับหนูให้พาไปให้พี่พีมหนูกับเพื่อนอีกสองเลยพาไปค่ะ แล้วตำรวยก็พาพวกหนูไปโรงพักเพื่อเป็นพยานให้ปากคำด้วยค่ะ หนูก็ให้ความร่วมมือค่ะ แต่่อยากออกมาขอโทษทุกคนกับมารยาทที่ไม่ดีค่ะ ที่หนูพูดออกไปว่าอย่าวุ่นวายหนูไม่ได้ตั้งใจจริงๆค่ะหนูกลัวมาก
เมื่อวานหนูเลยยอมให้สัมภาษณ์กับเพจพี่กัน จอมพลังค่ะ เพราะหนูทักหาเขาเองค่ะว่าอยากออกมาขอโทษกับสิ่งที่หนูทำไปจริงๆค่ะ หนูอยากขอโทษเพื่อนๆหนูด้วยทำที่ให้เดือดร้อน รวมถึงคนที่โดนน้ำร้อนสาดว่าหนูช่วยไม่ได้จริงๆเพราะไม่มีใครห้ามพี่เขาได้เพราะหนูเองยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์ค่ะ ส่วนอีกอยากขอโทษทุกคนที่ดูไลฟ์เมื่อวานหนูยอมรับตรงๆค่ะหนูตื่นไมค์แต่่ที่หนูให้สัมภาษณ์ไปเป็นความจริงค่ะ
แล้วบวกกับหนูอ๊องๆด้วยขอโทษจริงๆค่ะที่ทำให้ภาพที่ออกมาดูติดเล่นไม่จริงจัง ขอโทษมากๆค่ะกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ วันนี้ที่หนูอยากบอกอีกคือทัวร์อย่าไปรุมเพื่อนหนูเลย (ตอนนี้หนูจะเป็นคนที่พยายามช่วยหาคนผิดค่ะ) เพราะเมื่อคืนหนูติดต่อเขาได้ทีมงานพี่กันบอกอยากคุยหนูก็พยายามติดต่อให้ค่ะ เพื่อให้สังคมได้รู้ว่าหนูไม่ได้ปกป้องหรือมีเจตนาไม่ดีค่ะ หนูจะพยายามช่วยนะคะ
ส่วนตอนนี้หนูไม่รู้ว่าทุกคนมองหนูยังไงแต่หนูอยากขอโอกาสกับสังคมให้มองหนูในอีกมุมค่ะอยากขอโอกาสได้แก้ตัวค่ะ หนูเองไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้หนูก็กลัวค่ะโลกโซเชี่ยลแรงค่ะหนูยอมรับ (สัญญาค่ะว่าจะช่วยให้พี่เขาออกไปยอมรับให้ค่ะ) ส่วนเรื่องอะไรที่หนูผิดหนูยอมรับผิดค่ะ ขอโทษจริงๆกับทุกคนในเหตุการณ์ และเพื่อนหนูที่หนูทำให้เดือดร้อน หนูจะเป็นคนที่ดีขึ้นค่ะ
Categories: NEWS
ซื้อบ้านราคา 8-10 ล้าน ต้องผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ถึงจะพอ
โดย อารยา ศิริพยัคฆ์
อัปเดต : 08/07/2024
โดย อารยา
อยากครอบครองบ้าน 8-10 ล้าน แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นการซื้อบ้านระดับนี้ยังไง ที่สำคัญหลายคนอาจกำลังกังวลเรื่องรายได้ หรือเงินเดือน ที่จะทำให้ได้รับอนุมัติกู้ซื้อบ้านได้ขึ้น รวมไปถึงแบบบ้าน 8-10 ล้าน ที่ตอบโจทย์คนซื้อบ้านได้ทุกกลุ่ม ทั้งความทันสมัยของเทคโนโลยีภายในบ้าน ตลอดไปถึงการถูกรายล้อมไปด้วยสังคมคุณภาพ ซึ่งทั้งหมดสามารถเป็นเจ้าของได้เมื่อรู้ขั้นตอนการกู้ซื้อบ้านและตารางการผ่อนบ้าน 8-10 ล้าน ที่ไม่ว่าใครก็บริหารจัดการได้
ตอบคำถามคาใจ คนซื้อบ้าน 8-10 ล้าน
- ซื้อบ้าน 8-10 ล้าน จำเป็นต้องมีเงินเดือนหรือรายได้เท่าไหร่?
- ซื้อบ้าน 8-10 ล้าน ต้องผ่อนเท่าไหร่?
- ซื้อบ้าน 8-10 ล้าน กู้ได้ 100% หรือไม่?
- ซื้อบ้าน 8-10 ล้าน ได้บ้านแบบไหน?
- อยากเป็นเจ้าของบ้านราคา 8-10 ล้าน ต้องทำอย่างไร
ซื้อบ้าน 8-10 ล้าน จำเป็นต้องมีเงินเดือนหรือรายได้เท่าไหร่?
เชื่อว่าหลายคนมีคำถามอยู่ในใจว่าถ้าซื้อบ้านราคา 8-10 ล้าน ต้องมีเงินเดือนหรือรายได้เท่าไหร่ ถึงจะผ่อนไหว ซึ่งโดยปกติธนาคารจะคำนวณให้ผู้กู้มีความสามารถทางการเงินในการผ่อนประมาณ 20-30% ของรายได้ต่อเดือน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สินเชื่อจะพิจารณาให้กู้บ้านประมาณ 30-40 เท่าของรายได้ ดังนั้นหากต้องการซื้อบ้าน 8-10 ล้าน จำเป็นต้องมีรายได้ต่อเดือนประมาณ 300,000 บาท (เมื่อรวมกับผู้กู้ร่วม) ถึงจะได้วงเงินกู้ 90-100% แต่ถ้าหากต้องการได้รับอนุมัติกู้บ้านได้ง่ายขึ้น อาจใช้วิธีวางเงินดาวน์เยอะ เพื่อจะได้มียอดในการขอกู้ซื้อบ้านกับธนาคารต่ำลง ซึ่งโดยปกติแล้วโครงการจะกำหนดให้วางเงินดาวน์บ้านขั้นต่ำ 10-20% ของราคาบ้าน
เงินเดือน 20,000 มนุษย์เงินเดือนกู้เงินซื้อบ้านได้กี่ล้าน
ซื้อบ้าน 8-10 ล้าน ต้องผ่อนเท่าไหร่?
ไขข้อข้องใจของคนอยากได้บ้าน 8-10 ล้าน กับจำนวนเงินที่ต้องผ่อนให้กับธนาคารต่องวด นั้นคิดเป็นเท่าไหร่ และจะสามารถแบกรับภาระนั้นได้หรือไม่ สามารถดูได้จากตารางเปรียบเทียบผ่อนบ้านได้
ตัวอย่างตารางเปรียบเทียบผ่อนบ้าน ตามวงเงินกู้สูงสุด
| รายได้ | จำนวนเงินผ่อนต่องวด | วงเงินกู้สูงสุด |
|---|---|---|
| 15,000 | 6,000 | 1,000,000 |
| 20,000 | 8,000 | 1,300,000 |
| 25,000 | 10,000 | 1,600,000 |
| 30,000 | 12,000 | 2,000,000 |
| 35,000 | 14,000 | 2,300,000 |
| 40,000 | 16,000 | 2,600,000 |
| 45,000 | 18,000 | 3,000,000 |
| 60,000 | 24,000 | 4,000,000 |
| 75,000 | 30,000 | 5,000,000 |
| 100,000 | 42,000 | 7,000,000 |
| 150,000 | 60,000 | 10,000,000 |
หมายเหตุ: ใช้วิธีการคำนวณเงินกู้บ้านโดยประมาณ จากอัตราดอกเบี้ยธนาคารไทยพาณิชย์ 5.95% ระยะเวลาที่ต้องผ่อนชำระ 30 ปี
อัพเดทล่าสุด อัตราดอกเบี้ย สินเชื่อบ้าน-คอนโด ปี 2567
ซื้อบ้าน 8-10 ล้าน กู้ได้ 100% หรือไม่?
ตามหลักเกณฑ์ LTV ซึ่งย่อมาจาก Loan to Value Ratio หรือ อัตราส่วนสินเชื่อต่อราคาบ้าน ได้กำหนดให้ผู้ที่ซื้อบ้านราคา 8-10 ล้านบาทขึ้นไป จากเดิมสามารถได้แค่ 90% ปัจจุบัน ถูกปรับเปลี่ยนใหม่เป็น 100% โดยสามารถกู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และเป็นการกำหนดเพดานสูงสุดที่รวมกับสินเชื่ออื่น พร้อมทั้งใช้ที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันหรือเป็นสินเชื่อ Top-up แล้ว
เรียนรู้เพิ่มเติม LTV คืออะไร อยู่อย่างไรให้รอดมาตรการนี้ วันนี้รู้กัน
ซื้อบ้าน 8-10 ล้าน ได้บ้านแบบไหน?
หากใครที่พอมีเงินก้อน และอยากซื้อบ้านในฝันกับบ้านราคา 8-10 ล้าน อาจไม่แน่ใจว่าบ้านระดับราคา 8-10 ล้าน จะได้ขนาดเท่าไหร่ อยู่บนทำเลไหน และจะเต็มไปด้วยความเพียบพร้อม หรูหราหรือเปล่า และเพื่อให้เห็นภาพชัดเจน พร้อมตอบสนองความต้องการคนซื้อบ้าน จึงได้รวบรวมไฮไลท์เด่นๆ ของบ้านราคา 8-10 ล้าน ไว้ดังนี้
- บ้านราคา 8-10 ล้าน กับพื้นที่ใช้สอยจัดเต็ม
สำหรับการออกแบบบ้านราคา 8-10 ล้าน หากเป็นบ้านเดี่ยวมักตั้งอยู่บนพื้นที่มีเนื้อที่ใช้สอยตั้งแต่ 80 ตร.ว. ขึ้นไป หรือบางโครงการจะให้พื้นที่ถึง 100 ตร.ว. เหมือนกับโครงการสราญสิริ เทียนทะเล 30 บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern Farmhouse บนพื้น 100 ตร.ว. แต่ถ้าหากเป็นทาวน์โฮมราคา 8-10 ล้าน แม้ว่าพื้นที่ตัวบ้านจะไม่มากเท่าบ้านเดี่ยว แต่พื้นที่ใช้สอยในบ้านเรียกว่าเกินบ้านเดี่ยวไปเลย เหมือนกับโครงการ เดมี สาธุ 49 ดีลักซ์ทาวน์โฮมใหม่ ที่อัดแน่นพื้นที่ใช้สอยถึง 212-300 ตร.ม. เลยทีเดียว
- บ้านราคา 8-10 ล้าน มักมาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่น
ส่วนใหญ่แล้วบ้านราคา 10 ล้าน มักมาพร้อมเรื่องงานดีไซน์ หากเป็นบ้านเดี่ยวจะมีเอกลักษณ์ซ่อนอยู่อย่างบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ล่าสุดของแสนสิริ ที่มีกลิ่นอายความเป็นบ้านสไตล์รีสอร์ท กับบุราสิริ กรุงเทพกรีฑา แต่ถ้าใครชอบสไตล์ Modern Classic ที่สะท้อนความเหนือระดับของผู้อยู่อาศัย ต้องโครงการเศรษฐสิริ รวมโชค
บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา
เศรษฐสิริ รวมโชค
- บ้านราคา 8-10 ล้าน บนทำเลศักยภาพ
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของบ้านราคา 8-10 ล้าน เพราะมักจะตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ที่โดดเด่นทั้งเรื่องการเดินทาง อยู่ใกล้ทางด่วน รถไฟฟ้า หรือระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แหล่งงาน โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า หรือแหล่งของกิน ของใช้ เฉกเช่นเดียวกับ ย่านกรุงเทพกรีฑา พระราม 9
อยากเป็นเจ้าของบ้านราคา 8-10 ล้าน ต้องทำอย่างไร
บ้าน เป็นหนึ่งปัจจัยที่ใครหลายๆ คนใฝ่ฝันถึงการเป็นเจ้าของสักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะคงจะเป็นเรื่องที่มีความสุขไม่น้อย แน่นอนว่าการซื้อสินทรัพย์มูลค่า 8-10 ล้านบาท ผู้ซื้อจำเป็นต้องมีการวางแผนในเรื่องของการเงินและสภาพคล่องให้ดี ด้วยการเตรียมความพร้อมทั้งในด้านการเงิน การงาน และเครดิตทางการเงินที่ต้องมีความน่าเชื่อถือในระดับที่ดี เพื่อให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อให้เรา ส่วนวิธีที่ช่วยให้ฝันของเราเป็นจริงสามารถเตรียมตัวได้ดังต่อไปนี้
- สำรวจรายได้และความพร้อม
ผู้ที่ต้องการมีบ้านราคา 8-10 ล้าน ควรมีรายได้ประจำอยู่ที่ประมาณ 175,000 บาทต่อเดือน หรือผ่อนบ้านได้ประมาณ 70,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นสัดส่วน 40% แต่ถ้ามีภาระค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเงินเดือนก็จะต้องขยับสูงขึ้นตามด้วย
- เตรียมตัวยื่นกู้
เมื่อรายได้พร้อม รวมทั้งวางแผนค่าใช้จ่ายเรียบร้อยแล้วกระบวนการถัดไป คือ
- ศึกษารายละเอียดโครงการบ้านทั้งในเรื่องทำเลที่ตั้ง ส่วนกลาง การรักษาความปลอดภัย รายละเอียดตัวบ้าน เพื่อนบ้าน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงโปรโมชันจากโครงการ
- สำรองเงินอย่างน้อย 10% ของราคาบ้าน เพื่อใช้จ่ายในส่วนของการวางเงินดาวน์และค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ
- ศึกษารายละเอียดของโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เราต้องการจะยื่นขอกู้ พร้อมปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของธนาคารเพื่อประเมินศักยภาพในการชำระหนี้และโอกาสในการยื่นกู้ผ่าน
- เตรียมเอกสารสำหรับยื่นกู้ซื้อบ้านให้เรียบร้อย อาทิ
- บัตรประจำตัวประชาชน/ บัตรข้าราชการ/ พนักงานรัฐวิสาหกิจ
- ทะเบียนบ้าน
- สำเนาทะเบียนสมรส/ ใบหย่า/ ใบมรณะบัตร/ใ บแจ้งความแยกกันอยู่ (หากมี)
- สำเนาใบเปลี่ยนแปลงชื่อ – สกุล (หากมี)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส (หากมี)
- หนังสือรับรองเงินเดือน/ หนังสือรับรองสิทธิสวัสดิการ
- สลิปเงินเดือน หรือหลักฐานการรับเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือน
- Statement เงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
- หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ (พร้อมตัวจริง)
การครอบครองบ้านราคา 8-10 ล้าน ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เมื่อได้เรียนรู้รายละเอียดการซื้อบ้านข้างต้น และหากใครยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อบ้านโครงการไหนดี แนะนำให้ศึกษาข้อมูลโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รีวิวโครงการ ที่จะทำให้เข้าถึงบ้านได้ทุกซอกทุกมุม ไปพร้อมกับได้รับข้อเสนอพิเศษ โปรโมชันมากมาย อีกทั้งยังได้บริการที่ปรึกษาทุกเรื่องการซื้อบ้าน Home Financial Planner ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
Q :
วิธีคำนวณอัตราการผ่อนบ้าน
A :
โดยทั่วไปแล้วธนาคารจะพิจารณาการอนุมัติจากรายรับ รายจ่าย หนี้สิน และประวัติการชำระหนี้ โดยธนาคารจะกำหนดอัตราผ่อนรายเดือนไว้อยู่ที่ประมาณ 40% ของรายรับในแต่ละเดือน และอีก 60% จะเป็นรายจ่ายส่วนอื่นๆ ดังนั้นถ้าอยากรู้ว่าแต่ละเดือนเราสามารถผ่อนชำระค่างวดบ้านได้เดือนละเท่าไหร่ ให้ใช้สูตร “วงเงินผ่อนแต่ละเดือน = เงินเดือน x DSR (40%)” เช่น หากมีเงินเดือนอยู่ที่ 100,000 บาท อัตราเงินผ่อนต่องวดที่สามารถผ่อนได้สูงสุดคือ 40,000 บาท
Q :
ผ่อนบ้าน 8-10 ล้าน ต้องผ่อนเดือนละเท่าไร
A :
หากอยากทราบว่าการซื้อบ้านที่มีราคาช่วงราคาตั้งแต่ 8-10 ล้านบาทจะต้องผ่อนเดือนละเท่าไหร่ ให้ใช้สูตร วงเงินผ่อนแต่ละเดือน = เงินเดือน x DSR (40%) ดังนั้น เมื่อนำฐานเงินเดือนมาคำนวณคร่าวๆ ผู้ที่ไม่มีหนี้สินอื่นๆ จะมีวงเงินที่สามารถกู้ซื้อบ้านได้โดยประมาณดังนี้
| วงเงินกู้ | ผ่อนชำระ(ต่อเดือน) | เงินเดือน |
|---|---|---|
| 8,000,000 | 53,400 | 133,500 |
| 9,000,000 | 60,000 | 150,000 |
| 10,000,000 | 66,800 | 167,000 |
*เป็นการคำนวณโดยประมาณและไม่ได้นำอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมาคำนวณ
Q :
ผ่อนบ้าน 8-10 ล้าน ใช้เวลาในการผ่อนกี่ปี
A :
จากตารางนี้เป็นการคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5% ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาผ่อนอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคารและสถานการณ์ทางการเงินของผู้ขอสินเชื่อ เพื่อความถูกต้อง แนะนำให้ปรึกษากับธนาคารหรือผู้ให้คำปรึกษาทางการเงิน
| ราคาบ้าน (บาท) | ระยะเวลาผ่อน (ปี) | ค่างวดรายเดือน (บาท) |
|---|---|---|
| 8,000,000 | 20 | 52,805 |
| 25 | 46,899 | |
| 30 | 42,982 | |
| 9,000,000 | 20 | 59,906 |
| 25 | 53,261 | |
| 30 | 48,354 | |
| 10,000,000 | 20 | 66,981 |
| 25 | 59,603 | |
| 30 | 53,719 |
Q :
ผ่อนบ้าน 8-10 ล้าน ดาวน์กี่บาท
A :
ขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคาร: แต่ละธนาคารมีนโยบายการให้สินเชื่อที่แตกต่างกัน เงินดาวน์ขั้นต่ำจะอยู่ที่ 10-20% ของราคาบ้าน
Q :
ผ่อนบ้านยังไงให้คุ้ม
A :
ทำตามหลักการ 5 ข้อง่ายๆ ดังนี้
- เร่งโปะในช่วงอัตราดอกเบี้ยต่ำ
- ผ่อนให้เยอะกว่าค่างวดทุกเดือน เช่น ค่างวด 10,000 บาท อาจจะโป๊ะเพิ่มตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาทก็ได้ตามที่เราไหว
- หางวดโปะเงินก้อนใหญ่ปีละครั้ง อาจจะเป็นช่วงที่ได้เงินโบนัส หรือเมื่อมีโอกาส
- เลือกรีไฟแนนซ์ หรือรีเทนชั่น ทุก 3 ปี
- รีไฟแนนซ์ (Refinance) คือ การยื่นขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารใหม่ ซึ่งจะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง และยอดผ่อนลดลงด้วย แต่ก็มีข้อเสียที่ระยะเวลาดำเนินการ และค่าใช้จ่ายด้านสินเชื่อเพิ่มเติม
- รีเทนชั่น (Retention) คือ การขอลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารเดิมที่เราขอสินเชื่ออยู่แล้ว ซึ่งถ้าหากเครดิตทางการเงินดี มีวินัยในการผ่อนชำระสม่ำเสมอ ก็จะมีโอกาสได้รับการลดดอกเบี้ยตามอัตราที่ธนาคารกำหนด มีข้อดีคือไม่ต้องเสียเวลาดำเนินการขอสินเชื่อใหม่ทั้งหมดรวมถึงยังไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายดำเนินการต่างๆ เช่น ค่าจดจำนอง ค่าดำเนินการสินเชื่อ ค่าประเมินสินทรัพย์ เป็นต้น
- ผ่อนชำระให้ตรงเวลา แน่นอนว่าการผ่อนชำระตรงเวลาที่ธนาคารกำหนด เราจะได้ไม่ต้องเสียเครดิต และเสียดอกเบี้ยจากการชำระล่าช้าด้วย
