คิมเบอร์ลี่ เปิดข้อดีสามี หมาก ปริญ สุดพีค
คิมเบอร์ลี่ เผยชีวิตหลังแต่งงานแฮปปี้มาก เปิดข้อดีสุดพีกที่มี หมาก ปริญ เป็นสามี เผยเรื่องที่ทั้งคู่งอน ไม่บีบยาสีฟันให้กัน คาดหวังอยู่กันจนแก่ รับไม่ได้ถ้าเขาต้องจากไปก่อน
นางเอกสาว คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เผยชีวิตหลังแต่งงานกับสามีหนุ่ม หมาก ปริญ ในรายการยังไงไหนเล่า EP.105 คิมเบอร์ลี่ ข้อดีที่มีหมาก ปริญ เป็นสามี! ที่มี ก้อย นัตตี้ ดรีม เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยคิมเล่าว่าแฮปปี้กับการแต่งงานมาก ไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อนในชีวิต พร้อมเผยข้อดีที่ได้ พี่หมาก เป็นสามี รวมถึงเรื่องที่ทั้งคู่งอนกัน
โดย คิม เผยแพลนชีวิตในปีนี้ก่อนเตรียมตัวมีลูก “ปีนี้จะใช้ชีวิตให้เต็มที่ที่สุด ตั้งใจจะเที่ยวให้เต็มที่ จะปาร์ตี้มีเวลาให้เพื่อนๆ เยอะๆ เพราะปีหน้าจะเตรียมตัวมีลูก”
ชีวิตหลังแต่งงานเปลี่ยนไปมากแค่ไหน? “สำหรับคิมรู้สึกว่ามันไม่ได้ต่าง รักแบบไหนก็รักแบบนั้น เพราะว่าเราก็คบกันมานานมาก แล้วใช้เวลาอยู่ด้วยกันค่อนข้างเยอะมาก แต่ว่าที่มันเปลี่ยนไป รู้สึกเป็นครอบครัวมากขึ้น”
คบกันมานาน 11 ปี ถามว่าทำไมความรักยังแข็งแรง มองกันด้วยสายตามีประกายความรัก “คิมคิดว่าการจะมีความรักครั้งหนึ่ง มันต้องให้แต่สิ่งที่ดีที่สุดของเราให้กันและกัน เราจะไม่คบกันแล้วทำให้ท็อกซิก ไม่ทำให้ชีวิตของใครมันจม มันคือการทำให้ดีขึ้นตลอด มีเรื่องราวให้อัพเกรดกันตลอดเวลา ช่วยกันสร้าง เหมือนสร้างบ้านไปด้วยกัน ค่อยๆ สร้างจนมันเต็มมันครบ มันก็เลยรู้สึกว่าเราขาดคนนี้ไม่ได้แล้ว เขาเป็นคนของเรา”
ตอนหมากจีบคิม มีสปายสองคนคือ ญาญ่า กับ มาร์กี้? “เพื่อนก็เป็นสายซัพพอร์ต ไม่ได้ห้ามอะไร จะอยู่ในช่วงที่เราจีบกันเยอะมาก แอบกินข้าวกัน มันเป็นยุคที่ยังเปิดตัวไม่ได้ กินข้าวที่บ้านถ้าออกไปกินข้าวข้างนอกต้องไปเป็นกลุ่มใหญ่ ไปหลายๆ คน”
ไปเดตข้างนอกกันมั้ย? “ตอนที่ตัดสินใจจะคบกัน เริ่มเปิดแล้ว พี่หมากเขาเป็นคนสุดโต่ง เขาชิล ไม่ได้แคร์อะไร ก็โอเค ลองดู”
พี่หมากคลั่งรักมาก? “ก็มีทริปที่ขอแต่งงานนี่แหละ ที่เรารู้สึกเซอร์ไพรส์มาก เพราะว่าเราไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ”
ญาญ่าบอกอยากมีลูกพร้อมกัน แต่เราบอกว่าไม่อยากดองด้วย? “ท้องพร้อมกันได้ จะได้ปรึกษากัน แต่ว่าให้ลูกไปเจอคนอื่นเถอะ (หัวเราะ) คือมันสนิทกันมากเลย ปล่อยให้ลูกเขาไปอิสระ (สมมติเลิกกันขึ้นมา?) ลูกเธอนั่นแหละนอกใจลูกฉัน”
อยากมีกี่คน? “อยากมีคนเดียว ทึ่งมากกับแม่ที่ลูกหลายๆ คน เช่นมาร์กี้ โคตรเก่งเลย ยิ่งมีแฝด คนนี้ก็จะเอาอย่างนั้น คนนั้นก็จะเอาอย่างนี้ โอ้ย คิมไม่ได้ คือกี้ชีเป็นคนชิล”
ถ้าจะงอนกัน งอนกันเรื่องอะไร? “ตอนนี้ที่งอนกัน แค่ไม่บีบยาสีฟันให้ก็งอนแล้ว คือต้องบีบให้กันและกัน ใครตื่นก่อน งอนทั้งคู่เลย สมมติว่าวันไหนที่เราลืม เขาจะเล่นใหญ่มาก เดินผ่านไม่มาจับตัวเรา เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ”
“เรื่องเดียวเลยที่คิมจะโมโห คือโมโหหิว คิมไม่ได้ปรี๊ดใหญ่ เป็นคนลืมง่ายมาก เรื่องอะไรที่เกิดขึ้นเมื่อวานจำไม่ได้แล้ว โกรธง่ายหายเร็ว”
เราเป็นคนวงการบันเทิง พอผ่านเวลามาเป็นคู่กัน มันใช้ชีวิตยากขนาดนั้นไหม? “ก็มีนิดนึงช่วงแรกๆ มันจะมีดราม่า เรามากับช่วงที่เพิ่งมีโซเชียล เพิ่งได้โดนด่าในโซเชียลมันโตมาพร้อมกันหมดเลย เราก็จะมีแบบเอ๊ะ หรือยังไงดี ต้องทำตัวยังไง แต่พี่หมากเขาเป็นคนสุดโต่งกับความรู้สึกตัวเอง เป็นคนที่อยู่กับปัจจุบันมากๆ เราก็เลยค่อนข้างเป็นคู่ที่ธรรมชาติมาก ไม่ได้แคร์ความรู้สึกของใคร เรารู้กันเองว่าเราเป็นยังไง คิดว่ายากไหม ก็ไม่ได้ยากสำหรับเรา เป็นไปตามสเต็ป”
มันยากยุคโซเชียลมีเดีย เรารับมือยังไง? “ช่วงแรกๆ เราค่อนข้างคิดถึงความรู้สึกคนอื่นมากกว่าความรู้สึกเรา แต่พอเวลาผ่านไป เราต้องเอาแค่คนที่รักเราจริงๆ อันนั้นสำคัญที่สุด แคร์ทุกคนไม่ได้จริงๆ เวลามามันจะพิสูจน์เองว่าเราเป็นยังไง”
สำหรับชีวิตแต่งงาน มีสิ่งที่ห้ามทำกันทั้งคู่ไหม? “ห้ามนอกใจ แค่คุยก็ไม่ได้แล้ว โกหกมันเป็นสิ่งที่ผิดมากเลย คิมเป็นคนขี้หึง เราเป็นคนปากดี ห้ามอย่างนู้นอย่างนี้ถ้าใครเข้ามาจะขับรถชนบ้านให้ตายไปเลย แต่พอมีเรื่องที่ทำให้รู้สึกก็เงียบ (หัวเราะ) ไม่เก่งไง”
นอกกายกับนอกใจอันนั้นให้อภัยง่ายกว่ากัน? “คิมว่าแย่ทั้งคู่ ไม่ได้เลย ผิดเท่ากัน”
เคล็ดลับการดูแลสามี ทำหน้าที่ภรรยา? “เขาชอบมากเวลาที่เราเข้าครัว เขาอยากให้เราทำอาหารให้เขากินบ่อยๆ แต่ว่าบางทีมันก็ไม่ไหว (หัวเราะ) บางทีมันทำไม่ได้จริงๆ ก็จะทำให้กินบ้าง สิ่งที่สำคัญที่สุดเราต้องให้สิ่งดีๆ กันและกันในทุกวัน”
ข้อดีของการที่มีพี่หมากเป็นสามี? “หน้าตาดี แต่การที่เราจะต้องอยู่ด้วยกันในบ้านหายใจรดกันในทุกๆ คืนกับคนๆ หนึ่ง มันไม่ใช่แค่หน้าตาแล้ว เราจะต้องรับเขาให้ได้ในทุกอย่าง ข้อดีของเขาคือเขาปฏิบัติกับทุกคนเท่ากันหมด ยูเท่ว่ะ เราชอบคนแบบนี้มากๆ เป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลาย”
คาดหวังอะไรในความรัก? “คาดหวังว่าจะอยู่กันจนแก่ ชอบเห็นรูปที่คนแก่จูงมือเต้นรำกัน อยากมีพี่หมากอยู่แบบนั้น”
เคยคุยกันมั้ยว่าใครจะตายก่อน? “เพิ่งพูดเลย เรารู้สึกดีมากๆ ที่มีเขา เราโชคดีจังเลยที่เราได้มาอยู่ตรงนี้ ได้มามีคนที่เรารักเยอะขนาดนี้ รู้สึกแฮปปี้กับชีวิตการแต่งงานมาก ไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อนในชีวิต มีอยู่วันหนึ่งมาคิดว่า แต่ชีวิตมันไม่ได้จบแค่นี้ เดี๋ยวก็ต้องมีคนเสีย ใครจะไปก่อน ก็คุยกับเขา น้ำตาคลอเลยว่า คิมรับไม่ได้ถ้าเกิดว่าเขาไปก่อน เราขอไปก่อน”.
ขอบคุณที่มาช่องยูทูบ GoyNattyDream Channel
PF คาดตลาดอสังหาฯปีนี้ไม่ดี ชี้เศรษฐกิจไม่ฟื้นฉุดกำลังซื้อ
วันที่ : 7 มกราคม 2568
ที่มา : ข่าวหุ้น
แชร์ :
PF คาดตลาดอสังหาฯ ในปี 68 ยังไม่ดี! เหตุเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว กดดันอำนาจซื้อของลูกค้า ประกาศเดินหน้าลดหนี้รักษาสภาพคล่อง พร้อมวางเป้าการขายที่ดินและสิทธิการเช่าไว้ที่ 9,780 ล้านบาท ในปี 68
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 ยังไม่ดี เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว โดยมาจากปัจจัยกดดันเดิม ๆ ยังไม่ได้รับการคลี่คลาย และมีผลต่อเนื่องมาจากปีก่อน เช่น ปัญหาในเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง สถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งมีผลต่ออำนาจซื้อของลูกค้าโดยเฉพาะในระดับกลาง-ล่าง ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ยังไม่ฟื้น เพราะยังไม่ได้รับการแก้ไข จึงส่งผลให้สถานการณ์โดยรวมของตลาดยังไม่ดีขึ้น
ขณะที่ PF ยังคงเดินหน้าปรับลดหนี้ตามแผนที่ได้เคยประกาศไว้ ซึ่งถือเป็นภารกิจ (Mission) หลักในการดำเนินงานของบริษัทในปี 2568 ด้วย โดยในปี 2568 บริษัทวางเป้าหมายการขายที่ดินและสิทธิการเช่าไว้ที่ 9,780 ล้านบาท แบ่งเป็นการขายที่ดิน จำนวน 3 แปลง รวมมูลค่า 3,780 ล้านบาท (ที่ดินทำเลรามคำแหง 880 ล้านบาท, ที่ดินทำเลรามอินทรา 2,000 ล้านบาท และที่ดินทำเลรัชดา 900 ล้านบาท) เพื่อเสริมสถานะการเงินให้แข็งแกร่ง และคาดในปี 2568 อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) จะลดลงเหลือ 1 เท่า
“ทุก ๆ ธุรกิจต้องดูแลสภาพคล่องของตัวเองอยู่แล้ว เรายังคงเดินหน้าปรับลดหนี้อยู่ต่อเนื่อง ทั้งการขายทรัพย์สินและการขายที่ดินตามแผนที่เราได้เคยประกาศไว้ โดยยังคงเป้าหมายการขายที่ดินและสิทธิการเช่าไว้ที่ 9,780 ล้านบาทในปี 2568” นายวงศกรณ์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเดินหน้าสร้างการเติบโต ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ต้องคัดเลือก (Selective) มากขึ้น เลือกพัฒนาในทำเลที่มั่นใจจริง ๆ ว่า สามารถขายได้ และการสร้างสต๊อกสินค้านั้น ต้องให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับยอดขาย และความต้องการที่เกิดขึ้นจริงในโซนนั้น ๆ การสร้างสต๊อกจำนวนมาก เพื่อหวังสร้างยอดขายมาก ๆ นั้น อาจจะต้องระวังมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต สำหรับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2568 ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่โครงการใหม่ที่จะเปิดในปี 2568 นั้น จะเป็นโครงการที่เลื่อนเปิดตัวมาจากปี 2567 ทั้งหมด
นายวงศกรณ์ กล่าวอีกว่า ปัจจัยบวกที่จะสามารถกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 นั้น ทางสมาคมอสังหาริมทรัพย์ได้เสนอไปทางรัฐบาลแล้ว ซึ่งประเด็นหลัก ๆ ที่มองว่าจะได้ประโยชน์มาก ๆ คือ เรื่องของการยกเลิกมาตรการ LTV และการดึงกำลังซื้อจากต่างชาติเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทยได้แบบถูกต้องตามกฎหมาย เช่น การให้สิทธิต่างชาติได้ซื้อบ้านเดี่ยวได้มากขึ้น หรือเพิ่มสัดส่วนการซื้อคอนโดมิเนียมได้มากกว่า 49% เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้ก็เป็นการดึงอำนาจซื้อใหม่ ๆ เข้ามาเสริม และหากทำได้ก็จะได้ประโยชน์กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยมากขึ้น