• Sample Page
HOT NEWS
No Result
View All Result
No Result
View All Result
HOT NEWS
No Result
View All Result

เลขฝาโลง ยายชา ขนลุก ตรงอายุสุดท้าย ก่อนจากไปด้วยโรคมะเร็งปอด

admin79 by admin79
February 3, 2025
in Uncategorized
0
เลขฝาโลง ยายชา ขนลุก ตรงอายุสุดท้าย ก่อนจากไปด้วยโรคมะเร็งปอด

เลขฝาโลง ยายชา ขนลุก ตรงอายุสุดท้าย ก่อนจากไปด้วยโรคมะเร็งปอด

นับเป็นข่าวเศร้าในวงการตลกกับการสูญเสีย“ยายชา เถิดเทิง” หรือ “บุญฤทธิ์ คุ้มเงินแสน” อดีตตลกดังชื่อ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ม.ค.68  หลังรักษาอาการป่วยมะเร็งปอดมานาน ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว รวมถึงแฟนคลับ และพี่น้องในวงการตลกด้วย

เลขฝาโลง ยายชา ขนลุก ตรงอายุสุดท้าย ก่อนจากไปด้วยโรคมะเร็งปอด

ทั้งนี้ญาติและครอบครัวจัดพิธีศพ“ยายชา เถิดเทิง”ขึ้นที่ วัดรางหมัน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม มีแฟนคลับและศิลปินมาร่วมเป็นจำนวนมาก

เลขฝาโลง ยายชา ขนลุก ตรงอายุสุดท้าย ก่อนจากไปด้วยโรคมะเร็งปอด

ซึ่งช่วงใกล้หวยออก 1 ก.พ.68 แฟนหวยก็ให้ความสนใจ เลขยายชา เกิดปีพ.ศ. 2496 เสียชีวิต 25 ม.ค.68 โดยเริ่มเล่นตลกเมื่อปี 2519 ค่าตัวสมัยเป็นตลกแรกๆ 150  โดยพบว่าหลายคนอยากรู้ เลขฝาโลง ซึ่งคือเลข 027 ทั้งนี้พบว่าเลขดังกล่าวไปตรงกับเลขอายุยายชา 72 ด้วยเช่นกัน

เลขฝาโลง ยายชา ขนลุก ตรงอายุสุดท้าย ก่อนจากไปด้วยโรคมะเร็งปอด

คุณน่าจะชอบ

อัปเดตมาตรการรัฐ ซื้อบ้าน 2568 มาตรการไหนเหมาะสำหรับคุณ

โดย DDproperty Editorial Team

อัปเดตล่าสุด 15 มกราคม 2568 • ใช้เวลาอ่าน 6 นาทีซื้อบ้านหลังแรก

อัปเดตมาตรการรัฐ ซื้อบ้าน 2568 มาตรการไหนเหมาะสำหรับคุณ

มาตรการรัฐ ซื้อบ้าน 2568 ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงช่วยให้ประชาชนเข้าถึงการมีที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นซื้อหรือเช่าได้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวเช่นนี้ ลองมาอัปเดตมาตรการรัฐที่เอื้อต่อการซื้อ-เช่าได้ที่นี่

อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

  • บ้านเพื่อคนไทย ผ่อนเดือนละ 4,000 บาท
  • สินเชื่อบ้าน ธอส. ปี 2568 ดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้น 2.7% ต่อปี
  • สินเชื่อบ้าน Happy Home ธอส. ดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี นาน 5 ปี
  • การเคหะแห่งชาติจัดโปรบ้านคุ้มค่า ราคาโดนใจ รับปีใหม่ 2568
  • ลดหย่อนภาษีฯ สำหรับผู้ปลูกสร้างบ้านเอง
  • บ้านล้านหลัง เฟส 3 วงเงินให้กู้ 1.5 ล้าน
  • ผ่อนคลายมาตรการ LTV กู้ซื้อบ้านได้ 100%
  • ปรับเกณฑ์มาตรการ LTV เอื้อคนซื้อบ้านกรณีกู้ร่วม

บ้านเพื่อคนไทย ผ่อนเดือนละ 4,000 บาท

โครงการบ้านเพื่อคนไทยเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยราคาประหยัด หรือ Affordable Housing ในพื้นที่ศักยภาพที่ใกล้ระบบขนส่งมวลชน โดยมีทั้งคอนโดและบ้านเดี่ยว ไม่ต้องดาวน์ ผ่อนชำระเริ่มต้นที่ 4,000 บาท อยู่ได้ 99 ปี

https://youtube.com/watch?v=NF4lvKgGhfY%3Fsi%3DEPQqczgPTHx7IORz

ลักษณะโครงการ

– คอนโด พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 30 ตารางเมตร สำหรับ 1 ห้องนอน ไปจนถึง 51 ตารางเมตร สำหรับ 2 ห้องนอน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ระบบ Smart Residence และ Smart Function

– บ้านเดี่ยว บ้านชั้นเดียว เนื้อที่ 50 ตารางวา พร้อมที่จอดรถ 2 คัน

ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเช่าซื้อได้ในะยะเวลา 99 ปี โดยมีอัตราผ่อนเริ่มต้นประมาณ 4,000 บาท/เดือน ระยะเวลาผ่อนชำระ 30-50 ปี ทั้งนี้ยังมีการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.5%

พื้นที่และการพัฒนาโครงการ

พื้นที่นำร่องของโครงการเริ่มในกรุงเทพฯ และบริเวณใกล้ระบบขนส่งสาธารณะ ได้แก่

1. ที่ดินย่านบางซื่อ ย่านกิโลเมตรที่ 11 เนื้อที่ 15 ไร่ ซอยวิภาวดี 11 หลังสำนักงานใหญ่ ปตท. ใกล้สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ใกล้เซ็นทรัล ลาดพร้าว และรถไฟฟ้าสายสีเขียว

2. ที่ดินย่านสถานีธนบุรี บริเวณตลาดศาลาน้ำร้อน เนื้อที่ 23 ไร่ ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์ (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) ประมาณ 800 เมตร ห่างจากโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร

3. ที่ดินบริเวณสถานีรถไฟเชียงราก เนื้อที่ 18 ไร่ ใกล้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

4. ที่ดินรอบสถานีรถไฟเชียงใหม่ ถนนเจริญเมือง เนื้อที่ 15 ไร่

คุณสมบัติผู้ได้สิทธิ์ซื้อโครงการบ้านเพื่อคนไทย

1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย

2. เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ ณ วันลงทะเบียน

3. เป็นผู้ที่มีรายได้ ณ วันลงทะเบียน ไม่เกิน 50,000 บาท/เดือน

4. ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่อาจใช้พักอาศัยได้ทุกประเภท

5. ไม่เคยได้สิทธิในโครงการบ้านเพื่อคนไทย

ขั้นตอนการรับสิทธิ์ซื้อโครงการบ้านเพื่อคนไทย

1. ลงทะเบียน ผู้สนใจสามารถลงทะเบียน แสดงเจตจำนงเข้าร่วมโครงการได้ผ่านเว็บไซต์ www.บ้านเพื่อคนไทย.th (เปิดจองวันที่ 17 มกราคม 2568)

2. ตรวจสอบคุณสมบัติ โดยทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ จะตรวจสอบคุณสมบัติ จากนั้นจะประกาศผลการตรวจสอบเบื้องต้นของผู้ที่ยื่นเอกสารจองสิทธิ์ และติดต่อกลับไปยังผู้ที่ได้รับสิทธิ์

3. จับสลากเพื่อรับสิทธิ์ในการซื้อโครงการบ้านเพื่อคนไทย โดยผู้ที่รับสิทธิ์จะต้องแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิ์ตามวันและเวลาที่ธนาคารกำหนด เพื่อจะทำการตรวจสอบคุณสมบัติตามที่โครงการกำหนด หากไม่ผ่านเกณฑ์จะถือว่าเป็นการสละสิทธิ์

เงื่อนไขการซื้อสิทธิ บ้านเพื่อคนไทย

1. ผู้ซื้อสิทธิ 1 ท่าน มีสิทธิ์จองอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างได้ 1 หน่วย ต่อ 1 โครงการเท่านั้น แต่หากการพิจารณา ให้สิทธิ์ในโครงการใดเสร็จสิ้นไปแล้วและไม่ได้สิทธิ์ สามารถใช้สิทธิ์จองอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างอีกครั้งในจังหวัดเดิมได้

2. ห้ามโอนสิทธิ์ในโครงการบ้านเพื่อคนไทยภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันจดทะเบียนสิทธิ์

3. ห้ามนำอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างในโครงการบ้านเพื่อคนไทยไปให้ผู้อื่นใช้ประโยชน์ หรือทำนิติกรรมในลักษณะเป็นการต่างตอบแทน เพื่อให้บุคคลอื่นได้ใช้ประโยชน์ในอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง เว้นแต่เป็นการใช้เพื่อประโยชน์ของสมาชิกในครอบครัวของผู้ซื้อสิทธิ์

4. หากความปรากฏว่าผู้ซื้อสิทธิ์ขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่ง โดยขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกสิทธิในโครงการบ้านเพื่อคนไทย บอกเลิกสัญญา หรือปรับอัตราผลตอบแทนตามเหตุและปัจจัย

5. หากความปรากฏว่าผู้ซื้อสิทธิ์มีพฤติการณ์ปรากฏให้เห็นหรือเชื่อได้ว่าเป็นผู้มีรายได้เกินกว่า 50,000 บาท/เดือน ทั้งนี้ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกสิทธิในโครงการบ้านเพื่อคนไทย บอกเลิกสัญญา หรือปรับอัตราผลตอบแทนตามเหตุและปัจจัย

6. เงื่อนไขอื่นเป็นไปตามที่ประกาศกำหนด

7. สงวนสิทธิ์ที่จะแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขใด ๆ ดังกล่าวข้างต้น

กำหนดการของโครงการบ้านเพื่อคนไทย

  • 17 มกราคม 2568: เปิดให้จองโครงการผ่าน www.บ้านเพื่อคนไทย.th
  • กุมภาพันธ์ 2568: เริ่มก่อสร้างโครงการนำร่อง
  • มีนาคม 2568: ประกาศผลผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในการซื้อที่อยู่อาศัย
  • ธันวาคม 2568: เริ่มโอนโครงการนำร่อง 154 หน่วย
  • มิถุนายน 2569: เริ่มโอนโครงการนำร่อง 4,256 หน่วย
  • ธันวาคม 2569: เริ่มโอนโครงการ 56,000 หน่วย
  • ภายในปี 2570: โอนโครงการให้ได้ทั้งหมด รวม 100,000 หน่วย

สินเชื่อบ้าน ธอส. ปี 2568 ดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้น 2.7% ต่อปี

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดทำ 5 สินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำ (สำหรับลูกค้าที่มีความประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ หรือ MRTA/MLTA) ได้แก่

1. สินเชื่อบ้าน Life Begins with GHB ปี 2568

สำหรับสมาชิกสภา/สมาคมวิชาชีพที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ, ปลูกสร้าง, รีไฟแนนซ์, ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย

อัตราดอกเบี้ย

ปีแรกเพียง 1.79% ต่อปี

ปีที่ 2 เท่ากับ 2.80% ต่อปี

ปีที่ 3 เท่ากับ 3.50% ต่อปี (เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เพียง 2.70%)

ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา สำหรับลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี, สำหรับลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์/ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย เท่ากับ MRR

กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียงเดือนละ 3,000 บาท

พิเศษ! ฟรีค่าธรรมเนียมค่าประเมินราคาหลักประกัน

2. สินเชื่อบ้าน GHB Precious ปี 2568

สำหรับผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 70,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ, ปลูกสร้าง, ต่อเติม, ขยาย, ซ่อมแซม, รีไฟแนนซ์, กู้เพิ่ม และชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย

อัตราดอกเบี้ย

ปีที่ 1 เท่ากับ 1.79% ต่อปี

ปีที่ 2 เท่ากับ 2.80% ต่อปี

ปีที่ 3 เท่ากับ 3.50% ต่อปี (เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เพียง 2.70%)

ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา สำหรับลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี, สำหรับลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์/ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย เท่ากับ MRR

กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียงเดือนละ 3,000 บาท

3. สินเชื่อบ้านอยู่เย็นเป็นสุข ปี 2568

สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อ ปลูกสร้าง และปรับปรุงที่อยู่อาศัยที่ช่วยประหยัดพลังงาน

อัตราดอกเบี้ย

ปีที่ 1 เท่ากับ 2.20% ต่อปี

ปีที่ 2 เท่ากับ 2.80% ต่อปี

ปีที่ 3 เท่ากับ 3.70% ต่อปี (เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เพียง 2.90%)

ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา สำหรับลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี, สำหรับลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์ เท่ากับ MRR

กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียงเดือนละ 3,200 บาท

4. สินเชื่อบ้านสวัสดิการ ปี 2568

สำหรับผู้ที่เป็นลูกค้าสวัสดิการกับหน่วยงานที่ทำข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้ที่อยู่อาศัยประเภทไม่มีเงินฝาก ที่ต้องการซื้อบ้าน ซื้อที่ดินเปล่าที่เป็นทรัพย์ NPA ของธนาคาร, ปลูกสร้าง, รีไฟแนนซ์, ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย

อัตราดอกเบี้ย

ปีที่ 1 เท่ากับ 2.30% ต่อปี

ปีที่ 2 เท่ากับ 2.90% ต่อปี

ปีที่ 3 เท่ากับ 3.50% ต่อปี (เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เพียง 2.90%)

ปีที่ 4 -5 เท่ากับ MRR-2% ต่อปี

ปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์/ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย เท่ากับ MRR

กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียงเดือนละ 3,200 บาท

5. สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ปี 2568

สำหรับผู้ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ, ปลูกสร้าง, ต่อเติม หรือซ่อมแซม

อัตราดอกเบี้ย

ปีที่ 1 เท่ากับ 2.50% ต่อปี

ปีที่ 2 เท่ากับ 3.10% ต่อปี

ปีที่ 3 เท่ากับ 4.00% ต่อปี (เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เพียง 3.20%)

ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี

กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเพียงเดือนละ 3,300 บาท

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้แล้ว ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้-31 มีนาคม 2568 อนุมัติและทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 เมษายน 2568

สินเชื่อบ้าน Happy Home ธอส. ดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี นาน 5 ปี

โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home วงเงินโครงการ 20,000 ล้านบาท โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สนับสนุนสินเชื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด ปลูกสร้างอาคารหรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร และเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย

อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี วงเงินต่อรายสูงสุด ไม่เกิน 3,000,000 บาท ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี โดยประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถยื่นคำขอกู้กับ ธอส. ได้ตั้งแต่วันนี้-30 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่า ธอส. ให้สินเชื่อเต็มตามกรอบวงเงินของโครงการ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร. 02-645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

การเคหะแห่งชาติจัดโปรบ้านคุ้มค่า ราคาโดนใจ รับปีใหม่ 2568

การเคหะแห่งชาติ จัดโปรโมชันลดราคาที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ จำนวน 102 โครงการ ลด 5-20% และลดราคาพิเศษโครงการบ้านเอื้ออาทร จำนวน 47 โครงการ ราคาขายห้องชุดขนาด 24 ตารางเมตร เริ่มต้น 250,000 บาท และราคาขายห้องชุดขนาด 33 ตารางเมตร เริ่มต้น 390,000 บาท และวางเงินจองเริ่มต้น 1,000 บาทเท่านั้น

สำหรับลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินแล้วไม่ได้รับอนุมัติ สามารถยื่นขอสินเชื่อในโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย พร้อมรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.5% ใน 4 ปีแรก และปีที่ 5 เป็นต้นไป รับอัตราดอกเบี้ย 2.25%

ส่วนกลุ่มเปราะบาง (คนพิการ, ผู้สูงอายุ, พ่อ-แม่เลี้ยงเดี่ยว) หรือบุตรที่ประสงค์จะซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการที่พ่อแม่อาศัยอยู่เดิม หรือผู้ที่มีภาระต้องดูแลผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ทุพพลภาพ) ในช่วง 5 ปีแรกรับดอกเบี้ย 1.5% และปีที่ 6 เป็นต้นไป รับอัตราดอกเบี้ย 2.25% เช่นกัน

โดยให้ระยะเวลาผ่อนนานถึง 40 ปี แต่เมื่อรวมกับอายุผู้เช่าซื้อจะต้องไม่เกิน 75 ปี โดยลูกค้าจะต้องมีรายได้ไม่เกิน 43,000 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

หรือหากไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ลูกค้ายังสามารถยื่นขอทำสัญญาเช่าซื้อโดยตรงกับการเคหะแห่งชาติได้อีก

โดยปีที่ 1-3 จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4.25% ปีที่ 4-5 อัตราดอกเบี้ย 5.25% ปีที่ 6-10 อัตราดอกเบี้ย 6.50% และปีที่ 11 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย 6.75%

ส่วนกลุ่มเปราะบาง ปีที่ 1-5 จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4.25% ปีที่ 6-10 อัตราดอกเบี้ย 6.50% และปีที่ 11 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย 6.75% ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 30 ปี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 1615

ลดหย่อนภาษีฯ สำหรับผู้ปลูกสร้างบ้านเอง

มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน กำหนดให้บุคคลธรรมดา (ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล) หักลดหย่อนค่าจ้างก่อสร้างบ้านให้แก่ผู้รับจ้าง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการจ่ายค่าจ้างตามสัญญาจ้างตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567-31 ธันวาคม 2568

โดยให้หักลดหย่อนภาษีได้ 10,000 บาทต่อทุกจำนวนค่าก่อสร้าง 1 ล้านบาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 100,000 บาท เฉพาะค่าจ้างก่อสร้างบ้านไม่เกิน 1 หลัง ในปีภาษีที่ก่อสร้างบ้านเสร็จ ตามสัญญาจ้างที่ได้กระทำขึ้นและเริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567-31 ธันวาคม 2568 และได้เสียอากรแสตมป์โดยวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

บ้านล้านหลัง เฟส 3 วงเงินให้กู้ 1.5 ล้าน ดอกเบี้ย 3% คงที่ 5 ปี

โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 มีวงเงินโครงการ 20,000 ล้านบาท โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ จะสนับสนุนสินเชื่อให้แก่ประชาชนทั่วไปที่มีความต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยมีรายละเอียดดังนี้

– ให้กู้บ้าน ราคาซื้อ-ขาย/ค่าก่อสร้างและวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 1,500,000 บาทต่อรายต่อหลักประกัน ทั้งประเภทบ้าน หรือคอนโดมิเนียม ทั้งที่เป็นที่อยู่อาศัยใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ หรือบ้านมือสอง หรือเพื่อปลูกสร้าง และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยพร้อมซื้อบ้านหรือคอนโด

– มีระยะเวลากู้ยืมสูงสุดไม่เกิน 40 ปี

– ยกเว้นค่าประเมินราคาหลักประกัน (1,900-2,300 บาท) และค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง (1% ของวงเงินจำนอง)

– ดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี ในช่วง 5 ปีแรก (เงินงวดคงที่นานถึง 60 งวดแรก) วงเงินกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 4,100 บาท วงเงินกู้ 1.5 ล้านบาท ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 6,200 บาท

อัตราดอกเบี้ย

ปีอัตราดอกเบี้ย
ปีที่ 1-53.00%
ปีที่ 6-7= MRR-2% ต่อปี
ปีที่ 8-ตลอดอายุสัญญา (กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป)= MRR-0.75% ต่อปี
ปีที่ 8-ตลอดอายุสัญญา (กรณีลูกค้าสวัสดิการ)= MRR-1% ต่อปี
ปีที่ 8-ตลอดอายุสัญญา (กรณีกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์ฯ)= MRR (ปัจจุบันอยู่ที่ 6.40% ต่อปี)

ผ่อนปรนเงื่อนไขสมัครโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3

นอกจากนี้ ธอส. ยังได้ผ่อนปรนเงื่อนไขสำหรับลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้รับวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสม รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ประกอบอาชีพประจำหรืออาชีพอิสระ สามารถนำหลักฐานการชำระค่าเช่าบ้าน หรือผ่อนชำระเงินดาวน์บ้านไม่น้อยกว่า 12 เดือนมาแสดงให้กับธนาคารเพื่อประกอบการพิจารณาสินเชื่อเพิ่มเติมได้

หากไม่สามารถแสดงหลักฐานที่มาของรายได้ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ Financial Literacy และออมอย่างสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าเงินงวดผ่อนชำระเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 9 เดือน เพื่อใช้เป็นหลักฐานการพิจารณาสินเชื่อกับธนาคารได้ต่อไป

วิธีสมัครโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3

บ้านล้านหลัง ระยะที่ 3

ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 ได้มีเวลาในการจัดเตรียมเอกสารประกอบการยื่นขอสินเชื่อ ธนาคารจึงเตรียมเปิดให้รับรหัสเข้าร่วมโครงการได้พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป ผ่าน Mobile Application: GHB ALL GEN

โดยจะได้รับรหัส 10 หลัก (ตัวอักษร 3 หลัก และตัวเลข 7 หลัก) ทาง GHB Buddy ใน Line Application เพื่อนำมาประกอบการยื่นขอสินเชื่อตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป และทำนิติกรรมได้ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือก่อนกำหนดระยะเวลาดังกล่าวหาก ธอส. ให้สินเชื่อเต็มตามกรอบวงเงินของโครงการแล้ว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ที่ G H Bank Call Center โทร. 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application: GHB ALL GEN และเว็บไซต์ธนาคารอาคารสงเคราะห์

ประกาศขายบ้านเดี่ยว

ค้นหาโครงการบ้านเดี่ยวราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลากหลายทำเล

กดค้นหาได้ที่นี่

มาตรการ LTV ให้กู้เพิ่มได้ 10%

ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ Loan-to-Value: LTV เพื่อช่วยให้ประชาชนกู้บ้านเพื่ออยู่อาศัยจริงได้ง่ายขึ้น โดยมีเกณฑ์ดังนี้

ปรับเกณฑ์ใหม่เอื้อกู้ซื้อบ้าน-คอนโดหลังที่ 2
ตารางสรุปเกณฑ์มาตรการ LTV ใหม่

1. ส่งเสริมให้ประชาชนเป็นเจ้าของบ้านหลังแรกได้ง่ายขึ้นและช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการเข้าอยู่อาศัย โดยในการกู้ซื้อบ้านหลังแรกที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท แม้ว่ายังคงเพดาน LTV 100% สำหรับสินเชื่อบ้าน

แต่ผู้กู้สามารถกู้เพิ่มได้อีก 10% ของมูลค่าหลักประกัน สำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการเข้าอยู่อาศัยจริง เช่น การตกแต่งบ้าน การซ่อมแซมหรือต่อเติม ซึ่งหนี้ส่วนนี้เมื่อกลายเป็นหนี้ที่มีบ้านเป็นหลักประกันจะมีดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าการกู้แบบไม่มีหลักประกัน

ยกตัวอย่างง่าย ๆ ดังนี้

  • กรณีซื้อที่อยู่อาศัยแนวสูงที่มีราคาซื้อขาย 1 ล้านบาท เดิมผู้กู้จะมีโอกาสได้รับวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 900,000 บาท แต่เกณฑ์ใหม่จะทำให้ได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุดได้ถึง 1,100,000 บาท
  • กรณีซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีราคาซื้อขาย 1 ล้านบาท เดิมผู้กู้จะมีโอกาสได้รับวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 950,000 บาท แต่เกณฑ์ใหม่จะทำให้ได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุด 1,100,000 บาท

นอกจากนี้ กำหนดให้วางเงินดาวน์น้อยลงจาก 20% เป็น 10% สำหรับการกู้ซื้อบ้านหลังแรกที่มีราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป

2. ผู้ที่จำเป็นต้องมีบ้าน 2 หลังที่มีวินัยในการผ่อนชำระหนี้สัญญาที่ 1 มาแล้วพอสมควร ให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ขณะที่ยังคงส่งเสริมให้มีการออมก่อนกู้ โดยผ่อนเกณฑ์ให้การกู้ซื้อบ้านสัญญาที่ 2 ที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ต้องมีเงินดาวน์ 10% หากผ่อนชำระสัญญาที่ 1 มาแล้วอย่างน้อย 2 ปี (จากเดิมกำหนด 3 ปี)

อย่างไรก็ตาม ทาง ธปท. ยังไม่ยกเลิกเพดาน LTV สำหรับการกู้ซื้อบ้านสัญญาที่ 2 เพราะจากข้อมูลพบว่ามากกว่าครึ่งของผู้กู้ซื้ออาคารชุด 2 หลังพร้อมกันมีระยะห่างระหว่างการกู้สัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 2 ไม่ถึง 1 ปี สะท้อนว่าเป็นการกู้เพื่อเก็งกำไรมากกว่าเพื่ออยู่อาศัยจริง

ปรับเกณฑ์มาตรการ LTV เอื้อคนซื้อบ้านกรณีกู้ร่วม

จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV เพื่อป้องกันการเกิดหนี้เสีย แต่เกิดผลกระทบต่อผู้ซื้อบ้าน โดยเฉพาะผู้ที่กู้ร่วม

ด้วยเหตุนี้อีกหนึ่งมาตรการรัฐ ซื้อบ้าน 2568 นั่นคือ ทาง ธปท. ได้พิจารณาผ่อนปรนการนับสัญญากรณีกู้ร่วม โดยถ้าผู้กู้ไม่มีชื่อเป็นกรรมสิทธิ์ จะผ่อนปรนเสมือนยังไม่เป็นผู้กู้ในครั้งนั้น เนื่องจากไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่ออยู่อาศัย เพียงแค่ช่วยเหลือกันภายในครอบครัว โดยมีรายละเอียดดังนี้

Previous Post

ช่อง3เอาจริง ร่อนจม.3 ภาษา เตรียมดำเนินคดี ‘หลิงหลิง’ ถูกสะกดรอยตาม

Next Post

คนโสดร้องอุ๊ย!! ไทด์ เอกพันธ์ กอดทับทิม บอกเลยหวานเจี๊ยบ

Next Post
คนโสดร้องอุ๊ย!! ไทด์ เอกพันธ์ กอดทับทิม บอกเลยหวานเจี๊ยบ

คนโสดร้องอุ๊ย!! ไทด์ เอกพันธ์ กอดทับทิม บอกเลยหวานเจี๊ยบ

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • เจนนี่ รัชนก เตือน หลังถูกทักยืมเงิน 5 แสน
  • เปิดภาพล่าสุด “น้ำทิพย์ เสียมทอง” หลังคัมแบ็คละครพื้นบ้าน
  • เปิดโปรไฟล์ ผอ.พีช ผู้อำนวยการ รร.หน้าเด็ก ดีกรีไม่ธรรมดา
  • โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ อวยพรวันเกิด ไบรท์ แต่ทำหลุดโฟกัสที่ท้อง
  • ทอล เกียรติศักดิ์ เฉลยแล้วหลังมีภาพผูกข้อมือกับ กระต่าย พรรณนิภา

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • February 2025
  • January 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.