ลุงโยธิน อดีตนักแสดง ตัดสินใจขอบวชตลอดชีวิต
ถือเป็นอดีตนักแสดงอาวุโสที่มีผลงานการแสดงทั้งละครและภาพยนตร์หลายเรื่อง สำหรับ ลุงโยธิน มานพพันธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่หลายๆคนจะเห็นในบทบาทของพระสงฆ์อยู่ตลอด
ล่าสุด รายการห้องข่าวบันเทิง ทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 ได้เผยว่า วันที่ 11 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “นายโยธิน มานพพันธุ์” อดีตนักแสดงสมทบ วัย 71 ปี
ที่รับบทบาทในการแสดงละคร และ ภาพยนตร์ ในบทพระ ซึ่งมีการผลงานมากมาย อาทิ สมเด็จพระนเรศวร ภาค 2
ฤทัยบดี , หมอยาท่าโฉลง , ไอ้ไข่ และ เสาร์5 ฯลฯ วันนี้ได้ตัดสินใจลาบวชหรืออุปสมบท จะอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ตลอดชีวิต
ที่วัดเทพสรธรรมาราม (หลวงปู่สรวง) เมื่อเวลา 16.00 น. ภายในงานมีเพื่อนนักแสดงสมทบและโมเดลลิ่งมาร่วมงานบวช
จากการสอบถาม “ลุงโยธิน” อดีตนักแสดงสมทบ วัย 71 ปี กล่าวว่า ตนอยากบวชมานานแล้ว แต่ที่วัดอื่นไม่ให้บวช
เนื่องจากตนนั้นอายุเยอะแล้ว จึงมาขอบวชที่วัดนี้ และตนตั้งใจว่า จะบวชจริงๆก่อนที่ตนจะตายที่ไม่ใช่งานแสดง
เพื่อศึกษาพระธรรม คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งบั้นปลายชีวิตอยากใช้ชีวิตที่สงบสุข
ท่ามกลางแฟนๆร่วมอนุโมทนาบุญเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว สาธุจ้า
Categories: NEWS
9 อันดับผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย
คุณกำลังพิจารณาเลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ หรือเปล่า หรือว่ากำลังเลือกซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ในหัวหิน หรือกำลังโหยหาบ้านในฝันในภูเก็ตอยู่ใช่มั้ย ข่าวดีก็คือ – ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทยมีตัวเลือกมากมายทุกระดับพร้อมตอบสนองความต้องการของคุณ
คอนโดในกรุงเทพฯ มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ที่มีขนาดกะทัดรัด ราคาประหยัด ไปจนถึงแบบที่มีพื้นที่กว้างขวางหรูหรา คุณอาจกำลังมองหาเพนต์เฮาส์ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ หรือกำลังมองหาคอนโดที่มีเทรนด์การออกแบบภายในที่ล้ำสมัย ซึ่งความยากคือการระบุโครงการที่ตรงกับเป้าหมายในสิ่งที่คุณต้องการรวมถึงการหาเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่จะใช้เพื่อค้นหาสิ่งที่เหมาะกับคุณ
การเลือกโครงการที่สร้างโดยบริษัทพัฒนาที่มีชื่อเสียงนับว่าเป็นสิ่งสำคัญมากเช่นกัน มีผู้พัฒนาโครงการหลายร้อยรายในประเทศไทย บางรายมีความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์และอีกหลายรายเชี่ยวชาญในด้านโครงการที่อยู่อาศัย
ตามหลักแล้ว เราควรเลือกโครงการจากบริษัทผู้พัฒนาฯ ที่มีประวัติผลงานที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถดำเนินโครงการได้สำเร็จโดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถดำเนินการได้ตรงเวลา ลองอ่านบทวิจารณ์และข้อเสนอแนะจากโซเชียลมีเดีย ตรวจสอบการอนุมัติอาคาร ตรวจสอบการรับรองความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการรับรอง EIA ประเมินคุณภาพของการก่อสร้าง และที่สำคัญ จงเชื่อในสัญชาติญาณความรู้สึกของคุณเกี่ยวกับตัวบริษัทผู้พัฒนาและโครงการของพวกเขา
รายชื่อบริษัทผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยชั้นนำในประเทศไทยที่เราได้รวบรวม มีโครงการที่สร้างเสร็จแล้วหลายโครงการ ซึ่งนอกเหนือจากนี้มีบริษัทที่มีชื่อเสียงอื่นๆ อีกมากมาย และรายการของเราเป็นเพียงข้อมูลบางส่วนเพื่อให้คุณมีข้อมูลในเบื้องต้น ทั้งนี้เช่นเดียวกับการลงทุนอื่นๆ อย่าลืมตรวจสอบประเมินมูลค่าทรัพย์สินอย่างรอบคอบก่อนการลงทุน สำหรับรายชื่อบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ต่อไปนี้มีลิงก์ไปยังรายละเอียดอสังหาริมทรัพย์ทีีลงประกาศขายให้เข้าชมอีกด้วย
แสนสิริ
แสนสิริเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในประเทศไทย ดำเนินกิจการมากว่า 38 ปี จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2537 และมีโครงการชั้นนำกว่า 400 โครงการทั่วประเทศ
โดยจะมุ่งเน้นที่โครงการคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยว ซึ่งมีการออกแบบที่ดีเยี่ยมพร้อมเข้าอยู่ ก่อสร้างและมีการตกแต่งอย่างมีคุณภาพ และใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมีช่องทางนำเสนอการขายและให้บริการแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่องผ่านการจัดการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท PLUS และบริษัทย่อยอื่นๆ
ตัวอย่างของแบรนด์ในเครือแสนสิริ ได้แก่: D Condo, The Base, Oka Haus, XT, The Line, The Monument, and 98 Wireless (อสังหาริมทรัพย์ระดับท็อปแบรนด์)
พฤกษา
พฤกษาเป็นบริษัทผู้พัฒนาที่มีชื่อเสียง โดยในระยะแรกมุ่งเน้นไปที่โครงการคอนโดราคาไม่แพง ทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยว ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขาได้ขยายกิจการสู่ตลาดอสังหาฯ ระดับหรูด้วยแบรนด์ ‘The Reserve’ รวมไปถึงโครงการอสังหาฯ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพและทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ บริษัทเริ่มดำเนินการในปี พ.ศ. 2536 และพวกเขายังมีโครงการนอกชายฝั่งในอินเดียและมัลดีฟส์อีกด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทไทยไม่กี่แห่งที่ไปลงทุนในต่างประเทศ
ตัวอย่างของแบรนด์ในเครือพฤกษา ได้แก่: Plum Condo, Fuse, The Tree, The Privacy, Chapter, The Reserve, Ivy, Urbano, The Connect
เอพี ประเทศไทย
ผลกำไรส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากการขายอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภท รวมถึงคอนโด ซึ่งมีโครงการหลายแห่งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และตัวเมืองของบางจังหวัด ตัวโครงการจะตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกและออกแบบให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละย่าน ด้วยการมุ่งเน้นที่ลูกค้าเป็นหลัก เครือเอพี มีตัวเลือกที่อยู่อาศัยที่ครอบคลุมทุกระดับผ่านบริการในเครือที่หลากหลาย
ตัวอย่างของแบรนด์ในเครือเอพี ประเทศไทย ได้แก่: Condos: Vittorio, The Address, Rhythm, Life, aspire
แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (L&H)
ตามชื่อบริษัท L&H มุ่งเน้นด้านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะบ้านเดี่ยว ตัวโครงการส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพและเมืองใหญ่อื่นๆ เช่น ในจังหวัดภูเก็ต บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2516 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี พ.ศ. 2526 มีประวัติการดำเนินงานที่ดีเยี่ยม บริษัทมุ่งเน้นการวิจัย พัฒนา สร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการก่อสร้าง วัสดุ การออกแบบ และบริการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย
ตัวอย่างของแบรนด์ในเครือแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (L&H) ได้แก่: The Key, the Bangkok, The Room, Nantawan, 88, Villaggio, Siwalee และอีกมากมาย
แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์
การพัฒนาอาคารชุดสำหรับพักอาศัยในเมืองในราคาที่จับต้องได้คือหัวใจสำคัญ กลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้มีรายได้ระดับล่างถึงปานกลาง อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ พวกเขาได้ผลิตโปรเจกต์ระดับพรีเมียมที่ยอดเยี่ยมออกมาและยังมีการเติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ. 2532 การพัฒนาและความมุ่งมั่นในแนวคิด “LPN Green” ของพวกเขายังได้ตอกย้ำกับการให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอีกด้วย
ในปี 2563 พวกเขาได้รับรางวัล Best Sustainable Developer (Asia) จากงาน PropertyGuru Thailand Property Awards และในปัจจุบันพวกเขาได้ขยายกิจการเกี่ยวกับโครงการจัดการอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวก
ตัวอย่างของแบรนด์ในเครือ แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ ได้แก่: Lumpini (ชื่อแต่ละโครงการอาจแตกต่างกันไป), Baan 365
อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์
เป็นน้องใหม่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเริ่มก่อตั้งในปี 2542 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2555 โครงการส่วนใหญ่อยู่ในทำเลที่ดีในกรุงเทพฯ ใกล้รถไฟฟ้า BTS และ MRT คอนโดของพวกเขาเน้นรูปแบบสไตล์ที่ทันสมัยและล้ำยุค มีกลุ่มเป้าหมายเป็นหนุ่มสาววัยทำงานในเมืองที่มีเงินเดือนดีซึ่งกำลังมองหาไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยและสะดวกสบาย ชื่อเสียงของพวกเขาคือการทำให้โครงการเสร็จในหรือก่อนเวลาเกือบทุกโครงการ และแน่นอนว่านี่คือข้อดีสำหรับนักลงทุนและผู้ซื้อบ้าน
ตัวอย่างของแบรนด์ในเครืออนันดาและบริษัทในเครือ ได้แก่: Ashton, Ideo, Venio, Elio, Unio, Artale, Airi, Atoll, Arden, Urbanio
ศุภาลัย
ส่วนใหญ่มุ่งเน้นให้บริการภาคส่วนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง พวกเขาสร้างชื่อเสียงที่แข็งแกร่งด้านการตกแต่งและการออกแบบที่มีคุณภาพ ตัวโครงการส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดจะมีโครงการเพียงบางพื้นที่เท่านั้น โดยมีทั้งโครงการบ้าน คอนโด และพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้เลือกชม
ล่าสุดบริษัทได้ก้าวเข้าสู่กลุ่มผู่บริโภคระดับรายได้ปานกลางถึงระดับสูง โดยมีโครงการหรู “ศุภาลัย ไอคอน” ย่านสาทรกำลังก่อสร้าง ด้วยความสูงถึง 56 ชั้น จะเป็นอาคารที่อยู่อาศัยที่สูงที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย
ตัวอย่างของแบรนด์ในเครือศุภาลัย: โครงการต่างๆ อยู่ภายใต้ชื่อแบรนด์ของศุภาลัย
เอสซี แอสเสท
เอสซี แอสเสท เป็นบริษัทของตระกูลชินวัตร นับว่าเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์ทางการเมืองที่แน่นแฟ้น นอกเหนือจากนั้น พวกเขายังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมียมในช่วงปี 2546 ในงาน IAA Awards คุณณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ได้รับรางวัล ‘BEST CEO’ ประจำปี 2563 ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง
บริษัทมีชื่อเสียงด้านการส่งมอบอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูง พวกเขามุ่งเน้นด้านความสะดวกสบายอย่างแท้จริง การออกแบบที่ใช้งานได้จริง ทำเลชั้นนำ เทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะ การรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม และชุมชนที่เข้มแข็ง และในอีก 3 ปีข้างหน้า มีกำหนดเปิดตัวโครงการถึง 27 โครงการ
ตัวอย่างของแบรนด์ในเครือเอสซี แอสเสท ได้แก่: The Crest, The Chambers, Centric, Saladaeng One, BEATNIQ, 28 Chidlom.
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้
บริษัทเปิดตัวในปี 2552 ด้วยโครงการคอนโดมิเนียมโครงการแรกที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงคือโครงการ ‘Sense of London’ ที่สุขุมวิท 109 ซึ่งตัวโครงการได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว และในปี 2561 ออริจิ้นยังได้รับรางวัล “Fast-Growing Company Award” จาก Thailand Top Company Awards
ในช่วงเริ่มต้นบริษัทมุ่งเน้นไปยังกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้ต่ำ และในปัจจุบันพวกเขาได้ขยายกิจการ จนสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ในทุกกลุ่มตลาด ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงการเสนอขายโครงการระดับพรีเมียม พวกเขามุ่งเน้นพื้นที่ทำเลที่สะดวกต่อการเดินทาง เช่น อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS และทางด่วน รวมถึงการออกแบบที่อยู่อาศัยที่มีสไตล์และใช้งานได้จริงในราคาที่เหมาะสม
ตัวอย่างของแบรนด์ในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้แก่: The Park Origin, The Origin, Knightsbridge, Britannia, Kensington, Notting Hill