ทนายตั้มแจงแล้ว หลังโดน เจ๊หนึ่ง บางปู อดีตลูกความแฉ
วันที่ 30 ต.ค.67 จากกรณี “หนึ่ง บางปู” หรือ “วรัชญากรณ์ อ่อนธรรม”ออกมาแฉทนายตั้ม ที่เรียกเงิน 10 ล้าน ค่าทำคดีฟ้องหย่าสามีเก่า ต้องกู้เงินมาจ่ายค่าทำคดี แต่คดีกลับไม่คืบหน้า ล่าสุดทนายตั้ม ได้ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า เดือนเมษายน 2021 หนึ่ง บางปู ขอให้ผมช่วยเรื่องสามีที่เป็นตำรวจยึดโรงงานมูลค่า100 ล้าน ทำให้หนึ่งบางปู ขาดรายได้จากการไลฟ์สดเดือนละ 30-70 ล้าน ผมตกลงทำให้โดยคิดค่าทนายความ 10% ได้มีการเจรจาอยู่หลายครั้ง สามีหนึ่งบางปูกลัวจะเป็นข่าวใหญ่ จึงยินยอมคืนทุกอย่างให้หนึ่งบางปู วันที่ 30 เมษายน 2021 หนึ่งบางปูเรียกให้ผมไปรับค่าทนายความที่ จ.ระยอง ตอนนั้นหนึ่งบางปู อยู่กับผู้หญิงอีกคนหนึ่งพร้อมลูกน้องหลายคน
ต่อมาวันที่ 5 พ.ค ผมและหนึ่งบางปูเข้าไปที่โรงงานเพื่อตรวจสอบว่าทรัพย์สินยังอยู่ครบตามที่สามีตกลง หนึ่งบางปูจึงโพสต์ขอบคุณทนายตั้ม วันที่ 29 พ.ค มีการไปฉลองกันที่ทะเล ผมยังถ่ายภาพไว้เลย ต่อมา ได้ข่าวว่า หนึ่งบางปู กลับไปแต่งงานกับสามีเป็นข่าวเดือน มิ.ย. 2565 ต่อมามีข่าวว่าหนึ่งบางปูเลิกกับสามีและแต่งงานใหม่อีกครั้ง หลังจากนั้นหนึ่งบางปูมาหาผมที่สำนักงาน จะให้ผมช่วยฟ้องแบ่งสมบัติกับสามีเก่า ผมบอกว่าจะทำต้องจ่ายค่าทนายความใหม่นะ เพราะเรื่องเก่าจบไปแล้ว หนึ่งจึงโมโหและกลับไป
TOP 10 อสังหาฯ ไทย ทำกำไรสูงสุด แสนสิริ โกยมากสุด ขณะ 14 บริษัท ขาดทุน สต๊อกรวมท่วม 6.3 แสนล้าน
- อันดับ 1 : แสนสิริ 3,110 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 2 : เอพี 3,022 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 3 : ศุภาลัย 2,824 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 4 : แลนด์แอนด์เฮ้าส์ 2,806 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 5 : ออริจิ้น 1,915 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 6 : พฤกษา 1,730 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 7 : คิวเฮ้าส์ 1,261 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 8 : เอสซี แอสเสท 1,134 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 9 : เฟรเซอร์ส 714 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 10 : แอสเซทไวส์ 531 ล้านบาท (ลดลง)
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องจับตาดู คือ จำนวนสต๊อกที่อยู่อาศัยคงเหลือ และหน่วยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกเป็นจำนวนมาก โดยนับรวมจากทั้ง 38 บริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 อยู่ที่ 638,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.96% จาก 626,535.06 ล้านบาท จากสิ้นไตรมาสแรกที่ผ่านมา สต๊อกมากสุด นำโดย บมจ.แสนสิริ, ศุภาลัย, เอพี, แลนด์แอนด์เฮ้าส์, เอสซีฯ และพฤกษา เป็นต้น