ไฮโซปอ แฉทนายดัง หักหลังคดีแตงโม แนะแนวทางสู้ในทางที่ผิด ซ้ำเรียกเงินจำนวนมาก
วันที่ 28 ตุลาคม 2567 นางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ ทนายกุ้ง-นักสืบ คลายทุกข์ โดยระบุข้อความว่า ไฮโซปอ แฉทนายดังแนะแนวทางสู้คดีในทางที่ผิด พอไม่ลงตัวทนายดังก็หันหัวเรือไปหาอีกฝ่าย เวรกรรมมีจริง ยังมีอีกนะ บอสพอลพักไปก่อน!
![](https://www.mumkhao.com/img1/11/241028821fu.png)
ทั้งนี้ ในรายการทุบโต๊ะข่าว ได้สัมภาษณ์ ไฮโซปอ ตนุภัทร เจ้าของสปีดโบ๊ตที่ แตงโม นิดา นั่งและได้พลัดตกลงจากเรือสปีดโบ๊ต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2565 คนบนเรือ คดีแตงโม ได้ขอคำปรึกษากฎหมายจากทนายดัง วันนั้นพวกผมต้องไปเจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้การเรื่องแตงโม ซึ่งเพื่อนบอกว่าเราต้องเจอกับนักกฎหมายเพื่อปรึกษาก่อน ซึ่งมีใครบางคนรู้จักกับทนายดัง ติดต่อมาให้เจอกัน และได้เล่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นบนเรื่อง ซึ่งทนายดังเสนอ 2 แนวทาง หนึ่งในนั้น คือ ต้องโทษอีกคนที่อยู่บนเรือ และโยกความผิดให้คนคนนั้น และถ้าจะให้ทำคดีขอเรียกเงินในการทำคดีจำนวนมาก
![ไฮโซปอ แฉทนายดัง หักหลังคดีแตงโม แนะแนวทางสู้ในทางที่ผิด ซ้ำเรียกเงินจำนวนมาก](https://www.mumkhao.com/data/news_data/picture_800/3369606.jpg)
ซึ่งตอนนั้น ตนไม่มีปัญหาเรื่องเงิน แต่ตนอึ้งแนวทางในการทำคดี ทั้งที่เล่าความจริงไปแล้ว ทนายดังกลับบอกว่าพูดแบบนี้กับตำรวจไม่ได้ ต้องโทษคนบนเรือ วันนั้น มองว่าร่วมงานกันไม่ได้แล้ว ทนายดังกลับลุกออกจากห้องไป
![ไฮโซปอ แฉทนายดัง หักหลังคดีแตงโม แนะแนวทางสู้ในทางที่ผิด ซ้ำเรียกเงินจำนวนมาก](https://www.mumkhao.com/data/news_data/picture_800/3369606.jpg)
และหลังจากนั้น มีโพสต์ว่ากลุ่มคนบนเรือติดต่อผมให้ไปว่าความ เป็นทนายความให้ ซึ่งเขาโพสต์ว่า “ไม่รับทำคดีให้” ทั้งที่ฝั่งนั้นให้เพื่อนติดต่อมาหาตนเอง และที่น่าตกใจมากกว่านั้น คือ ทนายความคนดังกล่าว ได้ติดต่อพี่ชายแตงโม เพื่อขอเป็นทนายความให้ฝั่งนั้น ซึ่งตนมองว่า ตอนนั้นตนพูดไม่ได้ เพราะพูดไปกระแสสังคมตอนนั้นด่าตนแน่นอน
![ไฮโซปอ แฉทนายดัง หักหลังคดีแตงโม แนะแนวทางสู้ในทางที่ผิด ซ้ำเรียกเงินจำนวนมาก](https://www.mumkhao.com/data/news_data/picture_800/3369606.jpg)
ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว
4 อันดับ รถ Toyota รุ่นไหนดี ปี 2024 ระบบธรรมดา และ Hybrid
1
เลือกรถยนต์ Toyota ให้เหมาะกับการใช้งาน
ในปัจจุบัน มีรถยนต์จาก Toyota วางจำหน่ายอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และรถยนต์อเนกประสงค์ค่ะ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีรถยนต์รุ่นใดอยู่บ้าง และมีจุดเด่นในเรื่องอะไรบ้างนั้น เราไปดูรายละเอียดพร้อมกันเลยค่ะ
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
อ้างอิง:toyota.co.th
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลของ Toyota จัดอยู่ในประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รย.) ซึ่งเป็นประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีจุดเด่น คือ มีขนาดกำลังดี ไม่เล็กเกินไปสำหรับครอบครัวขนาดกลางที่มีสมาชิกไม่เกิน 5 คน และไม่ใหญ่เกินไปจนขาดความคล่องตัวสำหรับการขับขี่ในตัวเมือง รวมทั้งสามารถเลือกขนาดเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ โดยมีตั้งแต่ 92 แรงม้า ในรุ่น Yaris ATIV และ Yaris จนถึง 387 แรงม้าในรถสปอร์ต รุ่น GR Supra
โดยรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของ Toyota มีหลากหลายประเภทด้วยกัน ได้แก่ Sedan 4 ประตู, Hatchback 5 ประตู, CUV, SUV และรถสปอร์ต ซึ่งประกอบด้วยรถยนต์ 8 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่น Yaris ATIV, Yaris, Vios, Altis, C-HR, Corolla Cross, CAMRY และ GR Supra คุณจึงสามารถเลือกประเภท ขนาดตัวถัง และขนาดเครื่องยนต์ที่ตรงกับความชื่นชอบและการใช้งานได้ค่ะ
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
อ้างอิง:toyota.co.th
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์คือ รถยนต์สำหรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น การขนส่งสินค้า หรือรับ-ส่งผู้โดยสาร ซึ่งรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของ Toyota ประกอบด้วยรถยนต์ทั้งหมด 6 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Hilux Revo Standard Cab, Hilux Revo Prerunner & 4×4, Hilux Revo Z Edition, Hilux Revo Rocco, Commuter และ Hiace
โดยสำหรับรถยนต์รุ่น Hilux เป็นรถกระบะ สามารถจุผู้โดยสารได้ 2 – 5 คน ส่วน Commuter และ Hiace เป็นรถตู้ สามารถจุผู้โดยสารได้มากสุด 17 คนค่ะ นอกจากนี้ เนื่องจากเป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่มักถูกใช้ในการวิ่งระยะทางไกล จึงมีความทนทานและมีกำลังในการวิ่งสูง ซึ่งในรุ่น Hilux จะมีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 150 แรงม้า รุ่น Commuter มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 163 แรงม้า และ Hiace มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 177 แรงม้าค่ะ
รถยนต์อเนกประสงค์
อ้างอิง:toyota.co.th
รถยนต์อเนกประสงค์มีขนาดตัวถังค่อนข้างใหญ่และมีจำนวนที่นั่งหลายที่นั่ง จึงสามารถจุผู้โดยสารได้เป็นจำนวนมาก ทั้งยังสามารถพับเบาะเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้ จึงเป็นรถยนต์ที่คุณสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างอเนกประสงค์ทั้งการรับ-ส่งผู้โดยสาร และการบรรทุกสัมภาระตามชื่อของรถเลยค่ะ นอกจากนี้ รถยนต์ประเภทนี้ ยังมีช่วงล่างสูง เกาะถนนได้ดี จึงให้ความรู้สึกนุ่มนวลขณะขับขี่ และยังช่วยให้คุณเดินทางไปบนเส้นทางขรุขระอย่างถนน Off-Road ได้อีกด้วยค่ะ
โดยรถยนต์อเนกประสงค์จาก Toyota มีทั้งหมด 7 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Avanza, Sienta, Innova Crysta, Fortuner, Majesty, Alphard และ Coaster โดยรุ่น Avanza, Sienta, Innova Crysta และ Fortuner สามารถจุผู้โดยสารได้จำนวน 7 ที่นั่ง รุ่น Alphard สามารถจุผู้โดยสารได้จำนวน 8 ที่นั่ง รุ่น Majesty สามารถจุผู้โดยสารได้จำนวน 11 ที่นั่ง และรุ่น Coaster ซึ่งเป็นรถมินิบัส สามารถจุผู้โดยสารได้มากถึง 20 ที่นั่งค่ะ
2
เลือกรถยนต์ Toyota จากระบบการทำงานของเครื่องยนต์
อ้างอิง:toyota.co.th
อันดับต่อไป เรามาดูระบบการทำงานของเครื่องยนต์รถยนต์ Toyota กันนะคะ โดยผู้เขียนขอแบ่งระบบการทำงานของเครื่องยนต์เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ระบบธรรมดา และระบบ Hybrid ค่ะ สำหรับรถยนต์เครื่องยนต์ระบบธรรมดาของ Toyota มี 3 แบบด้วยกัน คือ 3 สูบ, 4 สูบ และ 6 สูบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ มีเพียงรุ่น Toyota GR Yaris ปี 2020 และรถสปอร์ตเท่านั้น ที่ใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ และ 6 สูบ โดยจุดเด่นของเครื่องยนต์ 4 สูบ คือ เครื่องยนต์มีความเสถียรสูง เดินเครื่องได้เรียบ และมีกำลังเครื่องดีค่ะ
ส่วนสำหรับระบบ Hybrid ของ Toyota ทำงานโดยการผสานพลังของมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เบนซินเข้าด้วยกัน โดยมีแบตเตอรี่ช่วยส่งพลังงานเสริมให้กับมอเตอร์ไฟฟ้า จึงช่วยให้เครื่องยนต์มีกำลังสูง อัตราเร่งดี ไม่แพ้เครื่องยนต์ระบบธรรมดาเลยค่ะ นอกจากนี้ ยังมีจุดเรื่องการประหยัดน้ำมัน ซึ่งในรุ่น CAMRY สามารถช่วยคุณประหยัดน้ำมันได้มากถึง 25 กิโลเมตรต่อลิตร ทั้งยังหมดปัญหาเรื่องเสียงดังรบกวนจากเครื่องยนต์ เพราะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอีกด้วยค่ะ